
จากกรณีคดีลอตเตอรี่จำนวน 30 ล้านบาท ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ซึ่งเป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัล และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ซึ่งแจ้งความว่าลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวเป็นของตนที่ทำหายไปจนมีการฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าใครเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริงกันแน่ โดยสังคมออนไลน์ก็พยายามหาข้อพิสูจน์การตกหล่นของลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว

และก่อนหน้านั้น ทางผลตรวจดีเอ็นเอ ได้มีลายนิ้วมือของลุงจรูญอยู่ แต่ทางด้านครูนั้น บอกว่ามีหลักฐานเด็ด
ล่าสุดนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ "เจ๊บ้าบิ่น" ออกมาพูดถึงกรณี คลิปเสียงที่กำลังแพร่สะพัดอยู่ในตอนนี้ว่า คลิปเสียงดังกล่าว เป็นการติดตามว่า ลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลอยู่ที่ครูปรีชาหรือไม่ เพราะว่าลอตเตอรี่หายไป ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าจะอยู่ที่ครูปรีชาหรือไม่
ส่วนคลิปที่พูดเรื่องการแบ่งเงิน 15 ล้านบาท ตนพูดกับตนอื่น ไม่ใช่ครูปรีชา แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร เพราะกำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวคนพูด ทั้งนี้ทีมข่าวสอบถามว่า การสนทนาดังกล่าว ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่อัดเสียงขณะโทรศัพท์เอาไว้ ซึ่งเจ๊บ้าบิ่น ยืนยันว่าตนไม่ทราบ ก่อนที่เจ้าตัวจะขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป อ้างว่าจะไปทำบุญ
ทางด้าน นายสันติ ขันเครือ ลูกชายของ "เจ๊บ้าบิ่น" กล่าวว่า คนที่โทรศัพท์มาหาแม่ตน และคุยเรื่องส่วนแบ่ง 15 ล้านบาทไม่ใช่ครูปรีชา น่าจะเป็นเพื่อนแม่โทรมาแซว หลังมีข่าวลอตเตอรี่หาย โดยเป็นการพูดเล่นกันว่า ถ้าเจอลอตเตอรี่ชุดดังกล่าว จะขอแบ่งเงิน 15 ล้านบาท โดยส่วนตัวยังไม่ได้ฟังเสียงในคลิปดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า แม่ของตนเป็นคนหาพยาน ที่เห็นการซื้อขายลอตเตอรี่นั้น ยอมรับว่าตนไม่ทราบ เพราะแม่ไม่เคยเล่าให้ฟัง โดยก่อนหน้านี้ตนบอกกับแม่ตลอดว่า ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง เพราะกลัวแม่จะเข้าไปเสี่ยง จนเกิดคดีความขึ้นกับตัวเอง
ส่วนกรณีที่มีการพูดคุยกับครูปรีชา แล้วอัดเสียงไว้นั้นตนไม่ทราบ และไม่รู้ว่าโทรศัพท์แม่ สามารถอัดเสียงอัตโนมัติได้หรือไม่ พร้อมยอมรับว่า สภาพจิตใจแม่ค่อนข้างเครียดกับกระแสข่าวที่ออกมา เนื่องจากไม่เป็นความเป็นจริง แต่กลับโดนสังคมโจมตี
นายสันติ ลูกชายของ "เจ๊บ้าบิ่น" เปิดใจอีกว่า แม่ของตนเพียงออกมาพูดตามความจริง ในฐานะคนขายลอตเตอรี่และไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งจนถึงวันนี้แม่ยังไม่ได้ออกไปขายขนมบ้าบิ่น เพราะเครียด ส่วนทิศทางคดีนี้ เหมือนจะกลับไปทางฝั่งลุงจรูญ ซึ่งหากอีกฝ่ายชนะคดี และแจ้งความดำเนินคดีกับแม่ ตนยอมรับว่า ทางบ้านคงจะไม่มีเงินที่จะไปสู้คดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม ได้เรียกแม่ไปสอบแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่มีการโอนคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้มาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
ชมคลิป
https://www.siamvariety.com/